Part1.
ได้รับอินบ็อกจากน้องสาวคนหนึ่งได้มาระบายความในใจ จับใจความได้ว่า
“แฟนเป็นคนชอบเตะบอล ต้องไปเตะบอลทุกวันพุธและวันเสาร์อาทิตย์ พอเตะเสร็จก็ไปทานข้าวกับเพื่อนต่อ บางคืนไปดูบอลบ้านเพือนจนดึกดื่น ไม่ค่อยมีเวลาให้หนูเลย ถ้าอยากเจอก็ต้องไปเจอเพื่อนกลุ่มบอล หรือไม่ก็ต้องไปนั่งเฝ้าที่สนามบอล หนูจะเลิกกับเขาดีไหมคะป้า??”
เอางี้เดี้ยวป้าจะเล่าถึงอดีตกาลของผู้ชายก่อนนะหลาน….. เมื่อหลายพันปีก่อนนั้น สมัยมนุษย์ถ้ำ ผู้ชายจะเป็นผู้ล่า ทุกๆเช้าจะออกไปล่าสัตว์ออกหาอาหารเป็นกลุ่ม ในขณะที่ผู้หญิงอย่างเราๆ จะอยู่ในถ้ำ ทำอาหาร ดูแลลูก เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้ชายต้องทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว นั่นก็ยังเป็นนักล่า (แต่เปลี่ยนจากล่าสัตว์เป็นออกไปทำงาน) ส่วนผู้หญิงก็ยังเป็นผู้ดูแลลูกและครอบครัวเหมือนเดิม
ดังนั้นการที่ผู้ชายคลั่งไคล้กีฬา มันเปรียบเสมือนการปลุกสัญชาติญาณการเป็น “นักล่า” อีกครั้ง พวกผู้ชายหลงไหลการดูการแข่งรถ ซึ่งเปรียบประหนึ่งเป็นผู้ขับเสียเอง นั่นคือความสุขของผู้ชาย ที่ทำให้เขาได้หวนกลับคืนมาเป็น “ผู้ล่า” อีกครั้ง มันคือความภาคภูมิใจ
ส่วนผู้หญิงเรามักจะไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้ชายจะคลั่งกีฬาได้่ขนาดนี้ จนไม่มีเวลาให้ บางคู่ที่ป้าเคยเจอ ผู้ชายมาเล่าให้ป้าฟังว่า “แฟนขู่ขอเลิก ถ้ายังเป็นแฟนหงส์แดง เพราะผมไม่มีเวลาให้เขา มากเท่าที่เขาต้องการ”
ป้าเลยถามว่า “แล้วยังไงต่อ เลิกคลั่งหงส์แดงไหม?”
“เลิกครับป้า …. เลิกเลยครับผู้หญิงแบบนี้ ผมกับพ่อเป็นแฟนหงส์แดง ตอนเด็กๆพ่อพาผมไปเล่นบอล และตอนดึกปลุกผมมาเชียร์บอล นี่คือความทรงจำที่ดีของผมกับพ่อ ทุกวันนี้ผมกับพ่อยังดูบอลด้วยกันตลอด แล้วทำไมผมต้องทิ้งความสุข ความทรงจำที่ผมมีมาตลอดให้กับผู้หญิงแบบนี้ด้วย ถ้าผมมีความสุขเธอก็น่าจะมีความสุข เพราะผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน”
นี่คือคำตอบที่ออกมาจากใจของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ป้าฟังแล้ว ไม่มีคำถามอะไรอีกเลย ตอบได้ตรงคำถามที่สุด
แล้วจะทำยังไดีถ้ามีแฟนบ้าบอลแบบนี้…. โปรดติดตามอ่านตอนต่อไปนะคะ เดี้ยวป้าจัดให้….
บุญรักษาค่ะ